โปรโมชั่นโรงแรมที่พักในฮ่องกง
ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ

ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ย่านเซ็นทรัล เกาะฮ่องกง

ย่านเซ็นทรัล ถือว่าเป็นย่านที่มีความเจริญมากที่สุดของเกาะฮ่องกง เพราะว่าแทบทุกตารางนิ้วของพื้นที่ส่วนนี้ได้ถูกพัฒนาปรับปรุงให้กลายเป็นอาคารสูง ที่ทำการของสำนักงานต่างๆ มากมาย อย่างตึก IFC2 (Two International Finance Centre) ปัจจุบันยังคงเป็นตึกที่สูงที่สุดในฮ่องกง นอกจากนั้นยังมีตึก The Center ซึ่งเป็นตึกที่มีความสวยงาม โดยเฉพาะในยามค่ำคืน แสงไฟรอบๆ ตึกจะวิ่งขึ้นลงสลับสีกันไปเรื่อยๆ ทำให้ดูสวยงามและดึงดูดสายตามากกว่าตึกอื่นๆ ซึ่งหากต้องการดูแสงไฟแบบจัดเต็มต้องรอช่วงประมาณ 2 ทุ่ม ให้ข้ามไปฝั่งเกาลูน ตรงบริเวณ แล้วมองข้ามมายังฝั่งเกาะฮ่องกง จะเห็นการแสดงที่เรียกว่า The Symphony of Light ซึ่งอาคารแต่ละหลังจะเปิดไฟสลับไปมาประกอบกับเสียงเพลง ให้กับนักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างอลังการ





สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจย่าน  Central

The Peak & The Peak Tower บนยอดเขา Victory Peak
The Peak เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะว่าเป็นจุดที่สามารถชมความสวยงามของเกาะฮ่องกงได้จากมุมสูง ทำให้เห็นอาคารบ้านเรือนต่างๆ โดยมีอ่าววิคตอเรียกั้นกลางระหว่างเกาะฮ่องกงและเกาะเกาลูน
ด้านบน The Peak จะมีสิ่งที่น่าสนใจคือ The Peak Tower, The Peak Galleria, EA Experience, พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง Madamme Tussud's และ หากต้องการชมวิวแบบชัดเจนที่สุดต้องขึ้นไปบน Sky Terrace

การเดินทางขึ้นไปบน The Peak สามารถใช้บริการรถราง หรือ นั่งรถบัสขึ้นก็ได้



บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลก 
Central Mid-Level's Escalator
บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลกนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฮ่องกงเลยครับ
เพราะว่าด้วยระยะทางที่ยาวถึง 800 เมตร และ สองข้างทางของบันไดเลื่อนที่เต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ
อาทิ ร้านอาหาร ภัตตาคาร ร้านขายของชำร่วย กิ๊ฟช็อป และ ร้านแผงลอยจำนวนมาก
หากใครจะแวะตรงไหน ก็สามารถลงจากบันไดเลื่อนได้เป็นระยะๆ ซึ่งต้องขอบอกว่าคุณอาจจะต้องใช้เวลาเป็นวันๆ ในการเดินเที่ยวอยู่ในย่านนี้เลยก็ได้ครับ
บันไดเลื่อนนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2431 เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับชาวบ้านที่ต้องเดินขึ้นลงเขาทุกวันๆ 
การเดินทางมาที่บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลกให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Central Station แล้วเดินออก Exit D2 หลังจากนั้นเดินตามถนน Queen's Road Central ตรงที่ตึก The Center ตั้งอยู่
บันไดนี้เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00 - 22.00 น.
ในช่วงเวลาเร่งด่วน 06.00 - 10.00 น. จะเปิดให้ลงอย่างเดียว
และในช่วงเวลา 10.00 - 22.00 น. จะเปิดให้ขึ้นอย่างเดียว
ข้อควรจำสำหรับการใช้บริการบันไดเลื่อนแห่งนี้ หรือ บันไดเลื่อนที่อื่นๆ ในฮ่องกง ให้เรายืนชิดขวาไว้เสมอและให้เหลือช่องด้านซ้ายมือไว้ เพื่อที่ใครกำลังเร่งเรียบจะได้เดินแซงไปได้



Dr. Sun Yat-Sen Museum
อาคารพิพิธภัณฑ์ด็อกเตอร์ซุนยัดเซ็นแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงชีวประวัติและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ของดอกเตอร์ซุนยัดเซ็นนักปฏิวัติชื่อดังของจีน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการโค่นล้มราชวงศ์ชิง อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋งอีกด้วย
การเดินทางให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Central Station หลังจากนั้นเดินออก Exit D2 แล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปจนสุดทาง จากนั้นให้เดินไปทางขวามือจะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ
เปิดให้บริการ 
เวลา 10.00 - 18.00 น. วันจันทร์ , พุธ , ศุกร์ , เสาร์
เวลา 10.17.00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดราชการ
หยุดวันพฤหัสบดี , วันที่ 12 พ.ย. , วันที่ 12 มี.ค. และ วันขึ้นปีใหม่
ค่าเข้าชมคนละ 10 HK$




Hong Kong Zoological & Botanical Gardens
ซูโลจิคอลแอนด์โบทานิคอลการ์เดนส์ เปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ซึ่งก่อนหน้านั้นสถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นที่พำนักของผู้สำเร็จราชการมาก่อน ในภายหลังได้มีการปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะและเปิดให้บริการแก่สาธารณชนในปี พ.ศ. 2414 แต่ใช้ชื่อว่า โบทานิค การ์เด้น และ มาเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่ที่ใช้อยู่จนถึงปัจจุบันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518
ภายในถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ สวนสัตว์ และ สวนพันธุ์พืช ซึ่งปัจจุบันมีสัตว์ให้ชมมากว่า 700 สายพันธุ์ และมีพันธุ์พืชมากกว่า 1,000 ชนิด โดยได้มีการแบ่งเป็นโซนย่อยๆ เช่น สวนนก สวนสัตว์ขนาดเล็ก สวนไผ่ สวนชา สวนปาล์ม สวนสมุนไพร ซึ่งชาวฮ่องกง และ นักท่องเที่ยวนิยมมาออกกำลังกาย และ ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนกับครอบครัวเป็นจำนวนมาก

การเดินทางให้นั่งรถไฟใต้ดิน MTR มาลงที่สถานี Central Station แล้วเดินออก Exit 2 หลังจากนั้นเดินไปตามถนน Garden Road
เปิดให้บริการทุกวัน 06.00 - 19.00 น.
ไม่เสียค่าเข้า




เดินชมตึกชื่อดังย่านเซ็นทรัล
อย่างที่ได้เกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่าย่านเซ็นทรัลเป็นย่านที่มีอาคารที่มีชื่อตั้งอยู่เยอะมาก ซึ่งเรามาดูอาคารบางส่วนที่น่าสนใจ ในย่านนี้กันครับ


The Center
อาคารสูง 73 ชั้น ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2541 เป็นตึกระฟ้าที่สูงเป็นอันดับ 4 ของฮ่องกง และ สูงเป็นอันดับ 13 ของโลก มีลักษณะเป็นคล้ายรูปแฉกดาว ซึ่งอาคาร The Center จะมีความสวยงามเป็นอย่างมาก หากมองลงมาจาก The Peak ในยามค่ำคืนเพราะแสงไฟรอบตัวอาคารจะเปลี่ยนสีสลับไปมา



Two International Finance Centre
อาคารสูง 88 ชั้นแห่งนี้เป็นอาคารที่สูงที่สุดบนเกาะฮ่องกง แต่ถ้าหากนับอาคารอื่นๆ ทั้งหมดในฮ่องกง ก็จะถือว่าเป็นอาคารที่สูงเป็นอันดับ 2 รองจากอาคาร International Commerce Centre ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเกาลูน สำหรับ Two International Finance Centre ประกอบไปด้วย 2 อาคาร คือ อาคารที่ 1 มีทั้งสิ้น 55 ชั้น เป็นที่ตั้งของโรงแรมโฟร์ซีซั่นฮ่องกง ในส่วนของอาคารที่ 2 เป็นอาคารสำนักงาน
ตัวอาคารภายนอกถูกออกแบบคล้ายกับเสาโอเบลิสก์ (Obelisk) ของประเทศอียิปต์ อาคารแห่งนี้ยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเอกซเพรส ของสถานีเซ็นทรัลอีกด้วย



Exchange Square
อาคาร Exchange Square เป็นอาคารสูงที่แบ่งออกเป็น 3 อาคารด้วยกัน คือ อาคารที่ 1 มีจำนวน 52 ชั้น อาคารที่ 2 มีจำนวน 51 ชั้น และ อาคารที่ 3 มีจำนวน 33 ชั้น เริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2526 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 5 ปี และเปิดใช้บริการเมื่อปี พ.ศ. 2531 อาคารแห่งนี้คืออาการตลาดหลักทรัพย์และองค์กรทางการเงินของฮ่องกง ซึ่งไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปชมด้านใน ยกเว้นชั้นล่างของอาคารที่ใช้เป็นจุดเชื่อต่อไปยังอาคารรอบๆ ซึ่งบริเวณนี้จะมีร้านอาหารและร้านค้าให้บริการ รวมถึงยังมีท่ารถบัสประจำทางเพื่อไปสถานที่ต่างๆ บนเกาะ เช่น หาดรีพัลส์เบย์ , สแตนเลย์ และ The Peak



Jardines House
อาคารทรงสี่เหลี่ยมสไตล์โมเดิร์นแห่งนี้มีความสูง 52 ชั้น สร้างเสร็จและเปิดใช้บริการในปี พ.ศ. 2516 อาคารแห่งนี้เคยได้ชื่อว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดของฮ่องกงในช่วงที่มันถูกเปิดใช้งานใหม่ๆ ในช่วงปี 2516 - 2523 หลังจากนั้นก็มีอาคารอื่นผุดขึ้นมามากมายจนปัจจุบันนี้อาคารแห่งนี้ไม่ได้เป็นอาคารที่สูงที่สุดในฮ่องกงอีกต่อไป
ความน่าสนใจของอาคารนี้คือหน้าต่างรูปทรงกลมจำนวนมากรอบๆ ตึก ซึ่งทำให้อาคารแห่งนี้ดูสวยงาม และเป็นอาคารที่ดูสวยงามโดดเด่นอีกอาคารนึงในย่านเซ็นทรัลแห่งนี้



HSBC
อาคาร HSBC หรือ ตึกธนาคารฮ่องกงเซี่ยงไฮ้ เป็นตึกที่มีลักษณะแปลกตรงที่มีสิ่งก่อสร้างลักษณะคล้าย ๆ กับปืนใหญ่ 2 อันหันหน้าไปทางตึก Bangkok Of China ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องของสิ่งก่อสร้างชิ้นนี้ก็ได้ทำให้เกิดข้อพิพาทกันขึ้นระหว่างตึก HSBC และ ตึก Bank Of China แต่ทาง HSBC อ้างว่าสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายกับปืนใหญ่นี้แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงเครนที่เอาไว้สำหรับทำความสะอาดกระจกรอบ ๆ ตัวอาคารเท่านั้นเอง
ชาวฮ่องกงเชื่อว่าอาคาร HSBC นั้นมีฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดในฮ่องกง เพราะที่ตั้งของอาคารเป็นจุดบรรจบของเส้นมังกรทั้งห้า และ การที่ตึกหันหน้าไปทางอ่าววิกตอเรียโดยไม่มีสิ่งก่อสร้างใดกีดขวางก็หมายถึงความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขัดขวางนั่นเอง

สิงห์โตตัวซ้ายชื่อว่า Stephen
สิงห์โตตัวขวาชื่อว่า stitt

นอกจากนั้นชาวฮ่องกงเชื่อว่าการได้มาลูบเท้าสิงห์โตที่กำลังนอนหมอบอยู่ด้านหน้าอาคาร HSBC จะเป็นการนำความโชคดีมาให้











Bank of China Tower

อาคาร Bank Of China Tower เป็นอาคารสูง 70 ชั้น มีลักษณะการออกแบบผสมผสานระหว่างอเมริกันกับจีน (Chinese-American) มีรูปทรงที่คล้ายๆ กับดาบแหลมขนาดใหญ่ ส่วนเสาสูงด้านบนคล้ายๆ มีไว้เพื่อสื่อถึงพลังอำนาจและความเจริญรุ่งเรืองให้กับอาคารหลังนี้ ทั้งนึ้ตึก Bank Of China ยังเปิดให้บุคคลทั่วไปได้ขึ้นไปชมวิวสวยๆ ของเกาะฮ่องกงที่บริเวณชั้น 43 ด้วยนะครับ
อาคารหลังนี้เปิดให้บริการ
เวลา 08.00 - 20.00 วันจันทร์ - ศุกร์
เวลา 08.00 - 14.00 วันเสาร์
หยุด วันอาทิตย์






เดินชมอาคารเก่าๆ ย่านเซ็นทรัล
ในย่านเซ็นทรัล นอกจากมีอาคารสูงที่น่าสนใจแล้ว ในย่านนี้ยังมีอาคารเก่าแก่ที่ไม่ควรพลาดชมหลายแห่งนะครับ ด้วยความที่ฮ่องกงเคยถูกอังกฤษเข้ามาครอบครอง ทำให้ปัจจุบันมีอาคารเก่าแก่ที่ดูคลาสสิคให้เที่ยวชม ขอยกตัวอย่างเส้นทางเดินชมอาคารเก่าแก่ดังนี้ครับ


Government House
อาคารสไตล์โคโลเนียลสีขาวแห่งนี้ถูกสร้างในปี พ.ศ. 2394 ก่อนถูกใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลภายใต้การปกครองของอังกฤษ ซึ่งต่อมาในช่วงสงครามโลก ญี่ปุ่นได้เข้ามายึดฮ่องกงไว้ และ ได้ทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวอาคารบางส่วนให้มีความเป็นญี่ปุ่น และ ได้ใช้เป็นสถานที่บัญชาการทางทหาร ซึ่งสไตล์การออกแบบใหม่ในครั้งก็ยังคงถูกรักษาไว้ โดยที่ทางการฮ่องกงยังคงใช้อาคารหลังนี้เป็นทำเนียบรัฐบาลตราบจนปัจจุบัน
อาคารแห่งนี้เปิดให้บริการ
08.00 - 20.00 น. วันจันทร์ - ศุกร์
08.00 - 14.00 น. วันเสาร์
หยุด วันอาทิตย์



St. John's Cathedral

เดินถัดมาจากอาคาร Government House คือโบสถ์ St. John's Cathedral ซึ่งเป็นโบสถ์สไตล์โคโลเนียล ซึ่งมีความสวยงามและโดดเด่นมาในย่านเซ็นทรัล โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2392 ซึ่งโบสถ์แห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ อาทิ พิธีกรรมทางศาสนา งานแต่งงาน และในวันอาทิตย์โบสถ์แห่งนี้ก็ได้ถูกใช้เป็นโรเรียน อีกด้วย
เปิดให้บริการ
09.00 - 18.00 น. วันจันทร์ - เสาร์
10.00 - 14.00 น. วันอาทิตย์



Court of Final Appeal

อาคารอิฐสีแดงแห่งนี้ ตั้งอยู่ถัดมาจากโบสถ์ St. John's Cathedral ไม่มากนัก ตัวอาคารยังคงดูสวยงามมากๆ แห่งนี้มีอายุอานามกว่า 150 ปี สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2411 เพื่อใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลแห่งแรกในยุคล่าอาณานิคม ซึ่งในภายหลังได้ถูกใช้เป็นที่ทำการศาล แต่ทางการฮ่องกงกำลังจะย้ายที่ทำการศาลไปที่แห่งใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 นี้เป็นต้นไป
ที่ทำการศาลแห่งใหม่ของฮ่องกง เริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558
อาคารที่ทำการแห่งใหม่ของศาลคืออาคารเดียวกับ The Legislative Council Building หรือ อาคารรัฐสภาซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับอาคารที่ทำการศาลเดิม




The Legislative Council Building

อาคารรัฐสภาสไตล์โคโลเนียล ที่มีโดมอยู่ด้านบนแห่งนี้ ตั้งอยู่ไม่ห่างจากอาคารที่ทำการศาลเดิม (หลังอิฐสีแดง) แค่เดินทะลุตึก HSBC ไปอีกฝั่งก็จะเห็นอาคารนี้ อาคารรัฐสภานี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2455 ด้วยฝีมือการออกแบบของ Sir Aston Webb สถาปนิกชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ที่รับผิดชอบงานส่วนหน้าของพระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งก่อนหน้านี้อาคารรัฐสภาแห่งนี้ได้เคยถูกใช้เป็นศาลฏีกา แต่ในภายหลังได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นอาคารรัฐสภาในปี พ.ศ. 2528



Statue Square

บริเวณพื้นที่ฝั่งตรงข้ามของอาคารรัฐสภาเรียกว่า Statue Square ซึ่งเป็นลานกว้างที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งบริเวณนี้มีรูปปั้นเก่าๆ ที่ยังคงหลงเหลือให้ได้ชมอยู่บ้าง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรูปปั้นของ Sir Thomas Jackson อดีตผู้จัดการธนาคาร HSBC ที่ทำให้ธนาคารแห่งนี้เติบโตและเป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชีย นอกจากนั้นยังมีลานน้ำพุฟีเจอร์ กำแพงประติมากรรม และ สวนหย่อมให้พักผ่อนอีกด้วย



Gas Lamps on Duddell Street
เที่ยวพักผ่อนบริเวณ Statue Square เสร็จแล้วก็เดินย้อนกลับมาที่ตึก HSBC และเดินทะลุตึกไปอีกฝั่งจะได้พบกับถนน Duddell Street ตรงนี้จะมีบันไดอยู่ ซึ่งตรงบริเวณบันไดจะมีตะเกียงแก๊สโบราณ ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ราวปี พ.ศ. 2418 - 2432 แต่ก่อนนี้ตะเกียงประเภทนี้มีจุดอยู่ทั่วเกาะฮ่องกง แต่ในภายหลัง มีเหลลืออยู่เพียงแค่ 4 อันเท่านั้น ซึ่งอยู่ตรงบริเวณถนน Duddell Street นี้แห่งเดียว

ในยามค่ำคืน ตะเกียงนี้ยังคงถูกเปิดใช้งานตามปกติ หากมีโอกาสลองมาเที่ยวชมกันดูนะครับ ของหายากอีกอย่างบนเกาะฮ่องกง



Bishop's House

อาคาร Bishop's House เป็นอาคารสไตล์คอลลีจิเอต (Collegiate) ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2391 เพื่อใช้เป็นโรงเรียน ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2394 ได้มีการปรับปรุงใหม่ และเปลี่ยนไปเป็นวิทยาลัยเซนต์พอลล์ (St.Paul's) ซึ่งเป็นวิทยาลัยอังกฤษแห่งแรกในฮ่องกง แต่พอหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 วิทยาลัยแห่งนี้ได้ถูกย้ายไปอยู่ที่ถนนบอนแนม (Banham) แทน และ ได้ทำการปรับปรุงใหม่อีกครั้งก่อนที่จะถูกนำมาใช้เป็นอาคารสำนักงาน



Old Dairy Farm Building

อาคารรูปทรงแปลกตาหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2433 ตามสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ในสมัยนั้นอาคารหลังนี้คือโรงงานผลิตนมและไอศครีม แต่ในภายหลังกิจการได้ปิดตัวลงไปในช่วง พ.ศ. 2513 อาคารหลังนี้จึงถูกปล่อยทิ้งร้างนานกว่า 20 ปี ต่อมาได้ทำการปรับปรุงใหม่ในปี พ.ศ. 2526 ทำเป็นคลับโดยตั้งชื่อว่า Fringe Club ซึ่งภายในประกอบด้วยโรงละครขนาด 100 ที่นั่ง พื้นที่แสดงงานศิลปะ และ ร้านอาหารสไตล์เก๋ไก๋มากมาย
เปิดให้บริการทุกวัน 07.00 - 24.00 น.







ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ


เวลาในฮ่องกง


ติดตามข่าวสารข้อมูลท่องเที่ยว